วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2551

กรณีศึกษา : ระบบติดตามอากาศยานของวิทยุการบินแห่งประเทศไทย(Aircraft Surveillance System)

กรณีศึกษา : ระบบติดตามอากาศยานของวิทยุการบินแห่งประเทศไทย(Aircraft Surveillance System)

วิทยุการบินแห่งประเทศไทยเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีภารกิจหลักในการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ และหนึ่งในภารกิจหลักคือ การให้บริการจราจรทางอากาศบริเวรสนามบินทุกแห่งของประเทศ รวมถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่กำลังจะเปิดใช้งานในอนาคต ซึ่งเป็นท่าอากาศยานสากลแห่งใหม่ในประเทศไทยที่มีขนาดกว้างใหญ่และมีเทคโนโลยีที่เพียบพร้อมและทันสมัย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในการใช้บริการของผู้โดยสารเพื่อเป็นการรองรับอากาศยานจำนวนมากในอนาคต วิทยุการบินฯ จึงวางแผนและดำเนินการเพื่อให้มีการบริการของเที่ยวบินต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น และลดความล่าช้า (Deley)ตลอดจนอำนวยความสะดวกแก่สายการบินนานาชาติในส่วนของการบริหารภาคพื้น ซึ่งจะต้องอาศัยระบบติดตามอากาศยานที่ทันสมัย เพื่อให้สามารถควบคุมจราจรทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบนี้สามารถติดตามอากาศยานได้ตลอดเวลาด้วยข้อมูลที่ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด

วิทยุการบินฯจึงได้นำระบบอุปกรณ์ติดตามอากาศยานที่ทันสมัยและใช้เทคโนโลยีล่าสุดมาใช้สำหรับการบริหารและจัดการอากาศยาน รวมถึงยานพาหนะในบริเวณท่าอากาศยาน ทางวิ่ง ทางขับ และลานจอดอากาศยาน ซึ่งระบบเป็นแบบบูรณาการ(System Integration)เพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็น Intelligence Ariport โดยการนำเอาข้อดีของระบบต่างๆซึ่งมีหน้าที่และประโยชน์การใช้งานที่แตกต่างกันมาเชื่อมโยงโดยระบบคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลและสร้างฟังก์ชันการทำงานที่เพิ่มขึ้นและทำงานอย่างอัตโนมัติ จึงสามารถใช้ศักยภาพของสนามบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดอุบัติเหตุ การล่าช้าของอากาศยาน รวมถึงลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศได้

การทำงานของระบบอุปกรณ์ ประกอบด้วย
๐ ระบบเรดาร์ปฐมภูมิ(Primary Surveillance Radar System : PSR )สำหรับการติดตามเป้าอากาศยานระยะภายในรัศมี 80 และ 250 ไมล์ทะเลจากสนามบินตามลำดับ

๐ ระบบเรดาร์ติดตามเป้าหมายบริเวณภาคพื้นสนามบิน (Advance Surface Movement Radar System)สำหรับติดตามเป้าอากาศยานและยานพาหนะที่เคลื่อนที่อยู่บริเวณโดยรอบสนามบินและบนสนามบิน

๐ ระบบควบคุมการสื่อสาร (Voice Communication Control System)สำหรับควบคุมระบบวิทยุสื่อสารที่ใช้ในการติดต่อระหว่างผู้ควบคุมจราจรทางอากาศกับนักบิน

๐ ระบบะประมวลผลข้อมูลเรดาร์ (Radar Data Processing System)สำหรับการประมวลผลข้อมูลเรดาร์จากเรดาร์หลายๆสถานี เพื่อระบุตำแหน่งและชื่อของอากาศยานนั้นๆรวมถึงการมีระบบแจ้งเตือนให้แก่เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรในอากาศในกรณีที่อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้น

๐ระบบประมวลผลข้อมูลการบิน(Fight Data Processing System)ทำหน้าที่ควบคุมและประมวลผลข้อมูลการบินเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาและตัดสินใจในการควบคุมจราจรทางอากาศ

๐ ระบบแสดงผลข้อมูล(Contronller Working Position)สำหรับแสดงตำแหน่และชื่อเรียกของอากาศยาน รวมถึงข้อมูลการบินที่ได้รับการประมวลผลจากระบบประมวลผลของข้อมูลการบิน

นอกจากนั้นระบบติดตามอากาศยานยังได้ทำการเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ได้แก่ ระบบไฟฟ้าสนามบิน(Airfield Lighting System)และระบบสารสนเทศสนามบิน(Airport Information System : AIMS)ของบริษัทท่าอากาศยานไทย เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างระบบได้และสามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติอีกทั้งยังมีระบบติดตั้งหอบังคับการบินสำหรับกรณีฉุกเฉิน(Emergency Tower)เพื่อความปลอดภัยในการบินและมิให้การบินต้องหยุดชะงัก

คำถาม
1 วิธีการพัฒนาระบบสาระสนเทศมีหลายวิธีด้วยกัน ในกรณีของระบบติดตามอากาศยานข้างต้นมีความเกี่ยวข้องกับการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ ซึ่งเป็นภาระกิจหลักของวิทยุการบินฯ ท่านคิดว่าควรเลือกใช้วิธีหรือแนวทางใดเพื่อให้ได้มาซึ่งระบบดังกล่าว
ตอบ:
๐ การพัฒนาแบบดั้งเดิม(Tradititional SDLC Methodology)เนื่องจากท่าอากาศยานในปัจจุบันยังไม่ได้รับความเป็นสากลมากนักจึงควรใช้ระบบการพัฒนาแบบดั้งเดิมเพราะการพัฒนาแบบดั้งเดิมเป็นระบบของการควบคุมจราจรทางอากาศของไทยมีความจำเป็นต้องให้ระบบสอดคล้องกับที่ทั่วโลกใช้อยู่ โดยผู้ใช้บริการท่าอากาศยานของไทยมีมาจากหลากหลายประเทศซึ่งข้อมูลจะต้องให้สอดคล้องกันและตรวจสอบข้อมูลต่างๆได้ ดั้งนั้นต้องมีการเชื่อมโยงระบบเข้าด้วยกัน การพัฒนาระบบแบบดั้งเดิมนี้สามารถกำหนดความต้องการไว้ อย่างละเอียดและมีรูปแบบชัดเจน อีกทั้งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาระบบที่มีการใช้เทคนิคซับซ้อนที่มีการกำหนดคุณลักษณะ ต่างๆ ไว้คงที่ล่วงหน้า มีการวิเคราะห์ความต้องการอย่างมีแบบแผนเป็นทางการ และมีการควบคุมกระบวนในการสร้างระบบอย่างเข้มงวดรัดกุม

2 ระบบติดตามอากาศยานมีความสำคัญต่อวิทยุการบินฯ อย่างไร และเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศจะได้รับผลกระทบจากการนำระบบนี้มาใช้หรือไม่จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ:
๐ การนำระบบอุปกรณ์ติดตามอากาศยานมาใช้สำหรับการบริหารและจัดการท่าอากาศยานรวมถึงพาหนะในบริเวณท่าอากาศยาน ทางวิ่ง ทางขับ และลานจอด โดยการนำเอาข้อดีของระบบต่างๆซึ่งมีหน้าที่และประโยชน์การใช้งานที่แตกต่างกันมาเชื่อมโยงกัน โดยมีระบบคอมพิวเตอร์มาประมวลผลข้อมูลและสร้างฟังก์ชั่นการทำงานที่เพิ่มขึ้นและทำงานอย่างอัตโนมัติและสามารถใช้ศักยภาพของสนามบินอย่างมีประสิทธิภาพ ลดอุบัติเหตุและการล่าช้าของอากาศยาน และมีผลกระทบทางด้านที่ดีต่อเจ้าหน้าที่คือช่วยลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศได้ ๐ ตัวอย่าง: ระบบควบคุมการสื่อสาร(Voice Communication Contron System)ช่วยให้การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศกับนักบินดีขึ้น๐ ตังอย่าง: ระบบประมวลผลข้อมูลเรดาร์(Radar Data Processing System)ช่วยระบุตำแหน่งและชื่อของอากาศยานนั้นๆรวมถึงมีระบบแจ้งเตือนให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมจราจรทางอากาศในกรณีที่อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2551

การศึกษาระบบงาน บริษัทเอ็น ไอ เทยิ่น โชยิ (ประเทศไทย) จำกัด


บริษัท เอ็น.ไอ. เทยิ่น โชยิ
(ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ ณ ศูนย์กลางกรุงเทพมหานคร
44 อาคารศรีจุลทรัพย์ ทาวเวอร์ ชั้น 17 ถ। พระราม 1 รองเมือง ปทุมวัน กรุงเทพ 10330 (ประเทศไทย)


เอ็น.ไอ.เทยิ่น โชยิ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือของ เอ็น.ไอ.เทยิ่น โชยิ ประเทศญี่ปุน ซึ่งเป็นผู้นำด้านการค้า Trading และ Converter บริษัทก่อตั้งโดยการร่วมมือกันระหว่างบริษัทเอ็น.ไอ.เทยิ่น โชยิ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท นิชโชอีวาย จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์ในการสนองต่อความต้องการของลูกค้าแพร่หลายทั่วโลก ภายใต้ concept ของบริษัทคือ CONVERTER, NETWORK एंड SPECIALITY


สายงานของธุรกิจ

ขาย, นำเข้าและส่งออกสินค้า ประเภทวัตถุดิบสิ่งทอ ( เท็กซ์ไทล์ ), ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า , วัตถุดิบเกี่ยวกับอุตสาหกรรม, ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับรถยนต์ทั้งผลิตภัณฑ์ภายในและภายนอก , เรซิน , ฟิล์ม เคมีภัณฑ์ , วัตถุดิบเกี่ยวกับการก่อสร้าง , ผลิตภัณฑ์หนังซึ่งเป็น man-made, อุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องจักรกล และอื่นๆ อีกมากมาย


ฝ่ายงานภายในบริษัทแยกตามผลิตภัณฑ์

1. Administration (Account / Finance / System)

2. Textile & Garment

3. Industrial Product

4। Yarn & Fiber



การเชื่อมโยงข้อมูลของแต่ละส่วนงานหรือแต่ละฝ่ายขององค์กรนั้น เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงคือ โปรแกรมทางด้านการวางแผนทรัพยากรขององค์กร หรือเรียกว่า ERP (Enterprise Resource Planning) คำว่า ERP นี้ความหมายทางทฤษฎีคือ เป็นการรวบรวมกระบวนการทางธุรกิจ (Business Process) ตลอดจนเชื่อมโยงโปรแกรมประยุกต์ (Applications) ต่างๆ ของแต่ละส่วนงานเข้าเป็นระดับองค์กร (Enterprise) โดยมีข้อมูลที่จัดเก็บไว้เพียงแห่งเดียว


เป้าหมายของ ERP


เพื่อรวบรวมแง่มุมทางธุรกิจต่างๆ เช่น งานวางแผน (Planning) งานผลิต (Production) งานขาย (Sale) งานทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource) และงานบัญชีการเงิน (Accounting/Finance) เชื่อมโยงข้ามส่วนงานต่างๆ เพื่อให้การใช้ข้อมูลร่วมกันจากฐานข้อมูลเดียวกัน

โดยทั่วไปการดำเนินงานขององค์กรไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ จะประกอบไปด้วยส่วนงาน 4 ส่วน


1. งานตลาดและขาย (Marketing and Sales) ประกอบด้วย การตลาด การรับคำสั่งซื้อ การสนับสนุนลูกค้า การพยากรณ์ยอดขาย และโฆษณา

2 งานผลิตและบริหารวัตถุ (Production and Materials Management) ประกอบด้วย การจัดซื้อ รับวัตถุดิบ ขนส่ง จัดลำดับกระบวนการผลิต ผลิต และบำรุงรักษาโรงงาน

3. งานบัญชีและการเงิน (Accounting and Finance) ประกอบด้วย บัญชีการเงิน จัดสรรและควบคุมต้นทุน วางแผนและจัดทำงบประมาณ และบริหารกระแสเงินสด
4. งานทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource) ประกอบด้วย การรับสมัครและว่าจ้าง อบรม


ซอฟต์แวร์ที่บริษัท เอ็น।ไอ। เทยิ่น โชยิ (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำมาใช้ในองค์กร คือ


Business Software

เป็นระบบที่ใช้สำหรับทำการประมวลผลเงินเดือนและค่าแรง ( รายได้ / รายหัก ) ที่จ่ายให้กับพนักงานเพื่อคำนวณเงินเดือน / ค่าแรงรายวัน / ค่าแรงรายชั่วโมง / ค่าแรงงานเหมา บันทึกรายได้ รายการหัก และ ค่าล่วงเวลา คำนวณภาษีแบบหัก ณ ที่จ่าย ประกันสังคม หลังจากที่ทำการประมวลผลเงินเดือนแล้ว สามารถบันทึกข้อมูลลงแผ่นดิสก์ส่งธนาคาร หากมีการจ่ายเงินเดือนผ่านธนาคาร สามารถบันทึกข้อมูลลงแผ่นดิสก์ส่งสำนักงานประกันสังคม สามารถบันทึกข้อมูล ภงด। 1 ภงด. 1ก ลงแผ่นดิสก์ส่งสรรพากรได้ สามารถพิมพ์รายงานสรุปเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา และค่าใช้จ่ายอื่นๆเพื่อลงบัญชีได้และสามารถพิมพ์หนังสือรับรองเงินเดือน หรือหนังสือรับรองการผ่านงานได้พร้อมทั้งสามารถเก็บยอดสะสม รายได้ รายหัก รวมทั้งวันลา ขาด สาย ของพนักงานทุกงวดไว้ทั้งปี



Infinium Software

เป็นระบบที่นำมาใช้จัดการงานด้านระบบบัญชี ซึ่งครอบคลุมทั้งงานด้านการเงิน การขาย การตลาดและการผลิต ซึ่งประกอบไปด้วย


MM : Material Management การบริหารวัตถุดิบ


OP : Oder Processing การขาย
PO : Purchase Order การซื้อ
IC : Inventory Control System ควบคุมสินค้าคงเหลือ


FM : Financial Management การบริหารการเงินการบัญชี


AR : Account Receivable การบริหารลูกหนี้
PL : Payable Payable การบริหารเจ้าหนี้
FA : Fix Asset บริหารสินทรัพย์
GL : General Ledger สมุดแยกประเภท


ข้อดี
1.มีการซับพอร์ตสกุลเงินต่างประเทศ
2.สามารถทำงานได้หลายระบบใน Software ตัวเดียว
3. ลดต้นทุนขององค์กร


ก่อนหน้านี้ บริษัท เอ็น.ไอ. เทยิ่น โชยิ (ประเทศไทย) จำกัด
ได้ใช้ JDE Software
เปลี่ยนเพราะ ไม่ซับพอร์ตสกุลเงินต่างประเทศและไม่รองรับกับระบบงานจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต


ในอนาคต บริษัท เอ็น.ไอ. เทยิ่น โชยิ
(ประเทศไทย) จำกัด
มี Plan เปลี่ยน Software ภายในองค์กรโดยมี Software ที่สนใจคือ
1. SAP B1
2. NAVISION
3. MOVEX


ที่จะมีการเปลี่ยน Software
เพราะ
1.ธุรกิจสมัยนี้มีการแข่งขันกันมากขึ้น
2.ต้องการเพิ่มยอดขาย
3.ต้องการลดต้นทุน
4.ต้องการลดค่าเสียโอกาส